วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้มหาวิทยาลัย

ประวัติกษัตริย์ 7 พระองค์ ณ อุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์


เสร็จสิ้นสมบูรณ์และยิ่งใหญ่สมเกียรติคุณของพระมหาษัตริย์ไทยทั้ง 7 พระองค์ สำหรับการติดตั้งพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม ภายใน "อุทยานราชภักดิ์"ที่ตั้งอยู่ภายในเขตกองทัพบก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีพื้นที่ทั้งหมดมากถึง 222 ไร่ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของอำเภอหัวหินไปเป็นที่เรียบร้อย


อุทยานราชภักดิ์คืออะไร
          หลายคนสงสัยว่า "อุทยานราชภักดิ์" คืออะไร หมายถึงอะไร อุทยานราชภักดิ์เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีความหมายว่า อุทยานที่สร้างขึ้นด้วยความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ โดยจัดสร้างขึ้นเพื่อเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณสมเด็จพระมหากษัตริย์แห่งสยาม
ที่มาของอุทยานราชภักดิ์

            1. เพื่อเป็นการเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณ สมเด็จพระมหากษัตริย์แห่งสยาม ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่ทรงสร้างคุณูปการที่ยิ่งใหญ่ต่อประเทศชาติ อันนำมาสู่ความเจริญรุ่งเรืองและความเป็นปึกแผ่นของชาติไทยตราบจนทุกวันนี้
            2. เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับกระทำพิธีที่สำคัญของกองทัพบก และรับรองบุคคลสำคัญจากต่างประเทศในโอกาสที่มาเยือนกองทัพบกอย่างเป็นทางการ
           3. เพื่อใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ สำหรับให้กำลังพลและครอบครัวของกองทัพบก รวมถึงนักเรียนทหาร ตลอดจนประชาชนทั่วไปทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ได้เข้ามาทัศนศึกษาและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างจิตสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย



ภายในอุทยานราชภักดิ์มีอะไรบ้าง
          ภายในอุทยานราชภักดิ์ ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่
            1. พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์ ใช้พื้นที่ในการจัดแสดง 5 ไร่ แต่ละพระองค์อยู่ในพระอิริยาบถทรงยืน หล่อด้วยโลหะสำริดนอก มีความสูงเฉลี่ยไม่เกิน 13.9 เมตร
            2. ลานอเนกประสงค์ บนพื้นที่ประมาณ 91 ไร่ ใช้สำหรับกระทำพิธีที่สำคัญของกองทัพและรับรองบุคคลสำคัญจากต่างประเทศ
            3. อาคารพิพิธภัณฑ์ที่จะจัดทำอยู่ใต้ฐานของพระบรมราชานุสาวรีย์ เพื่อจัดแสดงพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจที่สำคัญของบูรพกษัตริย์ไทย
          นอกจากนี้พื้นที่ส่วนที่เหลือจำนวน 126 ไร่ จะเป็นสภาพภูมิทัศน์โดยรอบ และการจัดสร้างระบบสาธารณูปโภคเพื่ออำนวยความสะดวก



ประกอบด้วย 7 พระองค์ ดังนี้
            1. พ่อขุนรามคำแหงมหาราช (สมัยกรุงสุโขทัย) ทรงถือพระแสงของ้าวในอิริยาบถโน้มลงแผ่นดิน มีความหมายว่าพระองค์ได้ผ่านการรบมาโชกโชน แต่ตอนนี้อยากจะปกครองแผ่นดินให้สงบสุขอุดมสมบูรณ์
            2. สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (สมัยกรุงศรีอยุธยา) ทรงถือทวนและสะพายพระแสงดาบในชุดนักรบ แสดงถึงความพร้อมออกรบตลอดเวลา
            3. สมเด็จพระนารายณ์มหาราช (สมัยกรุงศรีอยุธยา) อยู่ในฉลองพระองค์เต็มยศและสวมมงกุฎ เนื่องจากช่วงนั้นอยุธยามีการติดต่อกับชาติตะวันตก จึงต้องแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของกษัตริย์โบราณ
            4. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (สมัยกรุงธนบุรี) ทรงถือพระแสงดาบด้วยสีหน้าแววตาอันดุดันจากการกรำศึกหนัก
            5. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) อยู่ในอิริยาบถถือพระแสงดาบในฝัก หมายถึงการเป็นเสาหลักแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
           6. พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย พระองค์เดียวที่ไม่ได้เป็น "มหาราช" แต่ก็ได้รับการยกย่องในอุทยานราชภักดิ์ ด้วยเหตุผลที่เป็นผู้วางรากฐานและเปิดโลกทัศน์ให้กับรัชกาลที่ 5
            7. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์)ฉลองพระองค์เต็มยศแบบฝรั่งและพระหัตถ์ถือกระบี่ แสดงถึงความมั่นคงของประเทศ



เวลาเปิด-ปิด อุทยานราชภักดิ์
          นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเที่ยวชมยังพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์ได้แล้ว โดยจะเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. เข้าชมฟรี ! แต่ในส่วนของลานอเนกประสงค์และอาคารพิพิธภัณฑ์ยังอยู่ในระหว่างการจัดสร้าง







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น